การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2022 รอบชิงชนะเลิศที่ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ระหว่าง “เดอะร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน นักสอยคิวมือ 1 ของโลกจากอังกฤษที่กำลังลุ้นคว้าแชมป์โลก 7 สมัย กับ “เพชฌฆาตปืนกล” จัดด์ ทรัมป์ อดีตแชมป์โลกปี 2019 จากชาติเดียวกัน ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 4 ของโลก โดยใครถึง 18 เฟรมก่อน จะเป็นผู้ชนะและคว้าแชมป์มาครองพร้อมรับเงินรางวัล 500,000 ปอนด์หรือประมาณ 21.5 ล้านบาท
เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการดวลคิวในเซสชั่นที่ 3 ปรากฏว่า จัดด์ ทรัมป์ ที่ตามหลังในช่วง 2 เซสชั่นแรกถึง 5-12 เฟรม อาศัยลูกฮึดคว้าชัยในเซสชั่นถึง 6 เฟรม แถมยังกด 2 เซ็นจูรี่เบรกในเฟรมที่ 18 และ 25 ได้อีกด้วย
ขณะที่ รอนนี่ ชนะในเซสชั่นนี้เพียง 2 เฟรมเท่านั้น ทำให้ผ่านไป 3 เซสชั่น ทรัมป์ ไล่มาเหลือ 11-14 เฟรม 98-0, 0-120 (120), 1-78 , 66-73 , 13-62,4-105 (105), 98-0 , 79-50, 100-36 , 7-117 ,9-122 (118), 15-107, 0-77, 26-94 , 80-4 ,0-79, 33-88, 115(107)-22, 90-25, 81-0, 45-71, 66-20, 60-51, 1-68 และ 126(105)-0
ส่วนเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่าง รอนนี่ โอซัลลิแวน ที่ปะทะคารมกับ โอลิวิเยร์ มาร์ทีล ผู้ตัดสินชาวเบลเยียม ในระหว่างเฟรมที่ 8 ซึ่งแข่งขันไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจาก มาร์ทีล ได้เข้าไปเตือน รอนนี่ ว่าอย่าแสดงพฤติกรรมที่ส่อไปทางลามกอานาจาร ทว่า “เดอะร็อกเก็ต” โต้กลับมาว่าไม่ได้ทำ พร้อมท้าให้ไปเช็กดูจากกล้องถ่ายทอดสดได้เลย แถมยังชี้หน้าด่าทอผู้ตัดสินอีกต่างหาก
แม้หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายจะเคลียร์ใจเป็นที่เรียบร้อย จนความขัดแย้งยุติลง ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้ฉาวไปทั่วโลก จึงทำให้สมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) ที่มี เจสัน เฟอร์กูสัน เป็นประธาน ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้ว
