ส่องความคิด 4 ผู้เสนอญัตติเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย บันทึกหน้าใหม่สังคมไทย
1เกาะติดความคิดและการสะท้อนมุมมองปัญหาการพนันของไทย ผ่าน 4 ผู้เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาการตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจรและบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย หลังเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโหวตผ่านให้ 310 เสียง
การมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย.. ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสังคมไทย และประเทศไทย แต่ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรของไทย ก็เปิดไฟเขียวเพื่อให้มีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ผ่านการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ขึ้นมาพิจารณาและแปรญัตติในห้วงเวลา 90 วัน ผ่านส.ส. 60 ชีวิต ที่จะร่วมกำหนดและเขียนบันทึกหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์ไทยกับก้าวย่างของการเปิดประตูสู่บ่อนกาสิโนเสรี .. ไปส่องบางมุม บางความคิดของผู้แทนไทยกัน
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ได้ลงมติด้วยเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ทั้งหมด 12 ญัตติ เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ
นี่อาจถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่สภาผู้แทนของไทยได้เปิดทาง หรือไฟเขียว ให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรขึ้นในประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเสนอเรื่องนี้มาในหลายรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้ไปต่อได้.. จนกระทั่งวันนี้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเกิดภาวะซบเซาอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่หดหายไป เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงมาก ซึ่งเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“เจาะประเด็นร้อน” โดย อักษร 8 ทิศ ได้สืบค้นข้อมูลเพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นหัวใจสำคัญของการเสนอตั้งกรรมาธิการฯ ขึ้นมาศึกษาเรื่องดังกล่าว ซึ่งพบข้อเสนอและความคิดเห็นที่น่าสนใจมากไม่น้อย ซึ่งมีหลายคนที่ได้เสนอญัตติเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณษของสภามาตั้งแต่ปี 2563 แล้ว กระทั่งได้รวบรวมและหยิบยกมาพิจารณากันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อวานนี้ที่ได้ข้อสรุปร่วมกัน โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการธิการฯ ขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังในทุกมิติ ก่อนที่จะเดินหน้าประเทศเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย
คนแรกที่อยากพาไปดูความคิดเห็น นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ส.ส.ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ผู้มีบุคลิกที่รู้กันว่าฝีปากกล้า ท้าชนและมักปรากฏเป็นข่าวอยู่เสมอ ถ้าเขาเปิดประเด็นไหนออกมาแล้ว ถ้าในยุคหนังสือพิมพ์เฟื่องฟู “ส.ส.เต้-มงคลกิตติ์” คนนี้เป็นต้องมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ในยุคสมัยดิจิทัลนี้หน้าเว็บข่าวต่าง ๆ ก็มักมีข่าวเกี่ยวกับตัวเขานำเสนออยู่เนือง ๆ
ส.ส.เต้-มงคลกิตติ์ ให้เหตุผลของการขอให้สภาเปิดทางตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ไว้อย่างน่าสนใจว่า.. “ เนื่องด้วยสถานการณ์การเงินการคลังของประเทศไทยมีปัญหาอย่างมาก หนี้สาธารณะปัจจุบันกว่า 9.3 ล้านล้านบาท รัฐบาลขายพันธบัตรไปกว่า 10.9 ล้านล้านบาท หนี้ประชาชนร่วม 14.4 ล้านล้านบาท ดูแนวโน้มแล้วประเทศไทย จะมีสถานะหนี้สินล้นพ้นตัว จึงจำเป็นต้องหารายได้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์การเงินการคลังของประเทศ”
ส.ส.เต้ ฟาดประเด็นแบบตรงไป ตรงมาว่า การเปิดบ่อนกาสิโนขนาดเล็กในประเทศมีมาช้านานแล้ว ซึ่งรายได้จากการเก็บค่าต๋งจะอยู่ในระบบ (นอกระบบ) เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ (ตำรวจและทหาร และเจ้าหน้าที่ปกครอง) ซึ่งเป็นรายได้ที่ผิดกฎหมายจำนวนกว่า 80,000-120,000 ล้านบาทต่อปี ฉะนั้น เฉพาะในประเทศไทยถ้ามีการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายให้ชาวต่างประเทศที่เล่นจริง เล่นแบบออนไลน์ และคนไทยเฉพาะที่มีฐานะเท่านั้น ไม่เกิน 6% ก็น่าจะทำรายได้หมุนเวียนปีละไม่น้อยกว่า 15-20 ล้านล้านบาท เป็นภาษีไม่น้อยกว่า 1 ใน 2 ล้านล้านบาท ก็จะสามารถนำมาใช้หนี้สาธารณะประเทศได้ ลดภาษีน้ำมัน สร้างหลักประกันคนเกษียณเดือนละ 3,000 บาทต่อเดือน เงินที่เหลือก็นำมาดูแลการศึกษาต่อไป
มุมมองและเหตุผลของส.ส.เต้-มงคลกิตติ์ ถือว่ามองขาดในแง่ของสถานการณ์ทางการเงินของประเทศ และการมองหาแหล่งทุนหรือเม็ดเงินที่จะช่วยนำมาประคับประคองสถานการณ์ของประเทศได้ แม้จะดูเป็นเงินภาษีบาป แต่ถ้าเป็นเงินที่มีเส้นทางการได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นำเงินใต้ดิน เงินจากธุรกิจเถื่อนเข้าสู่ระบบและมีกฎหมายควบคุม ก็น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม กับสถานการณ์ที่คนทั้งชาติยากจนข้นแค้นและแสนยากลำบากเหลือเกิน
ขณะที่อีกความคิดเห็นของผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการกาสิโนของเมืองไทย ที่เอ่ยชื่อมาแล้ว ไม่มีใครไม่รู้จัก “ชัช เตาปูน” นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ผู้มากบารมีและความรู้ ความสามารถและยังมองเห็นปัญหาการพนันของเมืองไทยแบบทะลุปรุโปร่ง
“ชัช เตาปูน” สะท้อนภาพการพนันของไทยที่มีการลักลอบเล่นพนันกันมาอย่างแพร่หลาย และเมื่อประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีการเปิดบ่อนกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย เงินจำนวนมหาศาล ก็ยิ่งไหลทะลักออกนอกประเทศ “ชัช เตาปูน” บอกว่า บ่อนการพนันที่อยู่บริเวณรอบชายแดนประเทศไทยที่มีไม่ต่ำกว่า 50 แห่ง ลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นคนไทยและมีวงเงินจำนวนมหาศาลที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ และพบว่าประเทศเมียนมา ลาวและมาเลเซีย มีการอนุญาตให้เปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย ทำให้สามารถเปิดสถานกาสิโน หรือบ่อนการพนันในหลายแห่ง ควบคู่กับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริการและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้ประชาชนและนักธุรกิจไทยจำนวนมากเข้าไปเล่นการพนันในบ่อนที่อยู่ตามแนวชายแดนของไทย ทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ ส่งผลให้ไทยต้องสูญเสียรายได้ อันเป็นรายได้ทางเศรษฐกิจของประเทศไปเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
ดังนั้น หากมีการสร้างระบบเพื่อควบคุมกำกับดูแล และจัดระบบบ่อนการพนันที่ผิดกฎหมายให้อยู่ในระบบ และมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบระเบียบ มีการจัดเก็บรายได้ที่เป็นภาษีให้กับรัฐอย่างถูกต้อง ก็อาจจะเป็นช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ทั้งรายได้ที่เกิดจากการประกอบธุรกิจสถานกาสิโนและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งธุรกิจด้านกีฬาและธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศ อีกทั้งยังจะเป็นการช่วยลดปัญหาการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ และทำให้รัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถเข้าจัดการควบคุมธุรกิจการพนันที่ผิดกฎหมาย ที่ลักลอบกันทำอยู่ในปัจจุบันได้
ฟังความเห็นจากตัวจริง เสียจริงและรู้จริงเกี่ยวกับปัญหาการพนันของไทยแล้ว ลองมาฟังความคิดเห็นจากผู้กว้างขวางแดนเหนือ และต้องการปักธงให้ภาคเหนือของไทยเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและแหล่งรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากไทยเปิดให้มีสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) คนผู้นี้คือส.ส.เชียงราย “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” พรรคเพื่อไทย
ส.ส.พิเชษฐ์ ยกเหตุและผลที่ไทยควรเปิดให้มีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายว่า ปัจจุบันงบประมาณหรือรายได้หลักของประเทศไทยมาจากการเก็บภาษีของประชาชนปีละ 2.7 ล้านล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้รัฐบาลยังต้องแบกรับภาระหนี้สาธารณะของประเทศสูงถึง 7.2 ล้านล้านบาท ซึ่งโอกาสที่จะหาเงินมาใช้หนี้คงไม่มีและคงเป็นไปได้น้อย ดังนั้น สถานบันเทิงแบบครบวงจรจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่จากกลุ่มนักท่องเที่ยว และนักแสวงโชคชาวต่างประเทศเข้าประเทศ โดยที่ไม่ต้องมีการลงทุนจากภาครัฐ แต่สามารถสร้างรายได้แก่ประเทศได้ปีละ 4 ล้านล้านบาท เพราะประเทศไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ นักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีความพร้อมด้านการลงทุนและมีประสบการณ์ในการดำเนินการด้านสถานบันเทิงแบบครบวงจรระดับโลก เช่น กาสิโน สวนสนุก (Ferrari World) สนามแข่งรถสูตร 1 (Formula one หรือ F1) โรงแรมระดับโลก ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอลโลก สนามกีฬาโอลิมปิก เป็นต้น มีความพร้อมจะเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (NEC) ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงานสร้างอาชีพในหลายด้าน เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เป็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร จึงเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของประเทศที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังประสบปัญหาภาวะความตกต่ำ
ส.ส.แดนเชียงราย อ้างถึงประโยชน์และเม็ดเงินมหาศาลที่จะได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งมีสถานบันเทิงแบบครบวงจรเป็นตัวล่อแล้ว ลองมาฟังคนสุดท้าย ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย “จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์” ที่อยากให้รัฐบาลมีแก้ไขปัญหาการพนันที่มีมาอย่างยาวนานของสังคมไทย และยิ่งในยุคปัจจุบันมีการพนันในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะตู้เกมพนันไฟฟ้า หรือตู้สล็อตแมชชีน ซึ่งเป็นการพนันที่นิยมมากชนิดหนึ่งและกำลังแพร่ระบาดอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้ง กทม.
ส.ส.ศรีสะเกษ ผู้นี้บอกว่า ตู้เกมพนันไฟฟ้า เป็นการพนันชนิดร้ายแรงที่สามารถมอมเมาให้เยาวชนติดการพนันได้ง่าย โดยเฉพาะเยาวชนที่ไม่มีรายได้ อันจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย จนนำไปสู่ปัญหาสังคมรุนแรง จากเยาวชนติดเกมกระทั่งไปถึงยาเสพติด ไม่เรียนหนังสือ และสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในครอบครัว ซึ่งปัญหาตู้เกมสล็อตแมชชีนได้มีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม ถึงการลักลอบตั้งตู้เกมพนันไฟฟ้าในเขตชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งดำเนินการออกมาตรการป้องกัน แก้ไขและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบตั้งตู้พนันไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน
ทุกความคิดเห็นของส.ส.ทั้ง 4 คน ที่เป็นทั้งผู้เสนอญัตติและร่วมเป็นกรรมาธิการในการพิจารณาศึกษาการตั้งบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายแบบครบวงจร เป็นเพียงส่วนหนึ่งของส.ส.ในสภาที่สะท้อนถึงความสำคัญและความจำเป็นในการออกกฎหมายดังกล่าว และผลักดันให้เป็น “วาระแห่งชาติ” ซึ่งแน่นอนว่าระยะเวลา 90 วันนับจากนี้ กฎหมายที่จะนำเสนออกมาจะต้องมีความครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งในแง่ของการช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะมาจากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ และการป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศจากบ่อนกาสิโนของประเทศเพื่อนบ้าน
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีมาตรการทางกฎหมายที่สามารถควบคุม และป้องกันอย่างเข้มงวดกับผู้ที่จะเข้าใช้บริการในสถานบันเทิงแบบครบวงจร และบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย ควบคู่กับการให้ความรู้และทำความเข้าใจแก่สังคมไทย ถึงการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้เงินภาษีช่วยชาติ สังคมและประชาชนในประเทศ ไม่มอมเมาชักชวนให้เห็นผิดเป็นชอบ จนเกิด “ผีพนัน” เต็มบ้านเต็มเมือง .. นี่อาจเป็นอีกทางออกในการช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้ ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงและโรคระบาดโควิด-19 คร่าชีวิตคนไทยรายวัน