"เรือใบสีฟ้า" กำลังอยู่ในช่วงเข้าฟอร์ม ชนะมา 3 เกมซ้อนในทุกถ้วย กระนั้นในพรีเมียร์ลีกก็ยังคงตามหลัง อาร์เซน่อล อยู่ 5 คะแนนด้วยจำนวนเกมที่ผ่านไปแล้ว 26 นัดเท่ากัน หลังจากทีมของ มิเกล อาร์เตต้า แสดงให้เห็นถึงความตายยากตายเย็นในช่วงหลัง ทั้งเกมพลิกชนะ แอสตัน วิลล่า 4-2 และล่าสุดที่แซงชนะ บอร์นมัธ 3-2 หลังเป็นฝ่ายตามหลัง 0-2 ในหนึ่งชั่วโมงแรกของเกม
สุดสัปดาห์นี้ แมนฯ ซิตี้ จะออกไปเยือน คริสตัล พาเลซ จากนั้นจะลงเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแก้มือกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ที่พวกเขาเสมอมา 1-1 ก่อนเล่นเกม เอฟเอ คัพ พบ เบิร์นลี่ย์ แล้วจึงเข้าสู่ช่วงเบรคทีมชาติในครึ่งเดือนหลัง
"สภาพทีมของเรากำลังดีขึ้น เราจะได้ตัว จอห์น สโตนส์ กับ อายเมริก ลาป๊อร์กต์ กลับมา มันเป็นเรื่องดีที่ในช่วงกลางสัปดาห์นี้เราไม่ต้องลงเล่น และเราปล่อยนักเตะไปพักกัน 2 วัน เราต้องการช่วงเวลาแบบนี้ หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ยากลำบาก ไม่ใช่แค่จำนวนเกม แต่ยังเป็นการเดินทาง, เล่นนัดเยือน, เดินทาง, เล่นนัดเยือน"
"ตอนนี้เราจะพักสองวัน แล้วกลับมาเตรียมตัวพบ พาเลซ ซึ่งเป็นเกมยากเสมอ จากนั้นจะพบกับ ไลป์ซิก ซึ่งผมก็มีความเห็นแบบเดียวกันหลังจากเราเล่นเกมแรกกับพวกเขามาแล้ว และก่อนที่เราจะพักเบรคทีมชาติ เราก็จะต้องเล่นกับ เบิร์นลี่ย์ ของ วินนี่ (แว็งซ็องต์ ก็องปานี)"
"ถ้าเราสามารถเอาชนะเกมทั้งสามนัดนี้ได้ทั้งหมด เราก็จะยังอยู่ในเส้นทางของทั้ง 3 รายการ และเดือนท้ายๆ ของซีซั่นจะยังมีความหมายอยู่มาก แต่ถ้าเราแพ้เกมใดเกมหนึ่ง เราจะหลุดออกจากถ้วยนั้นๆ"
"การมาถึงจุดนี้ของซีซั่น คุณย่อมรู้อยู่แล้วว่าความพ่ายแพ้แค่นัดเดียวจะดีดคุณออกจากการแข่งขันได้ และเราก็รู้ดีกันอยู่แล้วในเรื่องนี้"
อย่างไรก็ตาม โค้ชชาวสแปนิชยืนยันว่า จะไม่โยนความกดดันให้ลูกทีมว่าต้องห้ามพลาดเป็นเด็ดขาดสำหรับเกมเหล่านี้ "ผมชอบที่เราได้พัก มันจะเป็นสองวันที่เราจะลืมเรื่องฟุตบอลไป สนุกกับชีวิตครอบครัว กับเพื่อนฝูง แล้วจากนั้นวันอังคารไปจนถึงเช้าวันเสาร์ เราจะมีเวลากันมากพอให้รีเซ็ตตัวเองและทำผลงานดีๆ กันอีกครั้ง"
